เตรียมลูกสู่รั้วโรงเรียน ตอนที่ 3 : วัย 12-24 เดือน
ลูกจะประสบความสำเร็จในโรงเรียนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเอาใจใส่
ของพ่อแม่ คุณสามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนเข้าโรงเรียนได้
การเตรียมความพร้อมสามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิด
และเราขอแนะนำให้คุณอ่านบทความ
ตอนที่ 1 และ
ตอนที่ 2 ก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความนี้
1) ทักษะทางภาษาและการอ่านเขียน
เด็กในวัยสองขวบจะเริ่มรู้จักสื่อสารและบอกความต้องการของตัวเองได้ดี
ขึ้น เด็กในวัยนี้จะใช้ทั้งท่าทางและเสียงหรือคำพูดในการบอกความต้องการ
ความรู้สึก และความนึกคิดให้พ่อแม่ได้รับรู้ เช่น
ลูกอาจจะจูงมือคุณไปที่ตู้เย็นหรือกระติกน้ำเพื่อบอกให้คุณทราบว่าลูกหิวและ
ต้องการดื่มน้ำ
เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มหัดพูดและสามารถพูดคำใหม่ๆได้เมื่ออายุประมาณ 18 เดือน
และเริ่มรู้จักนำคำใหม่ๆมาผสมกัน เช่น หิวข้าว กินน้ำ เอาอีก เป็นต้น
พอถึงช่วงอายุสองขวบ เด็กส่วนใหญ่จะพูดและออกเสียงคำศัพท์ได้ประมาณ 200 คำ
คุณสามารถช่วยเสริมทักษะด้านภาษาและการอ่านเขียนให้ลูกได้โดย
การพูดคุยกับลูก ชี้
ชวนให้ลูกดูของรอบๆตัว ลองถามลูกว่าของเหล่านั้นเรียกว่าอะไร
ให้คุณรอคำตอบจากลูกประมาณ 2- 3 วินาที และหากลูกไม่ทราบหรือไม่ตอบคำถาม
คุณก็บอกลูกว่าของสิ่งนั้นคืออะไร
วิธีนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกได้คิดหาคำตอบและแสดงให้คุณเห็นว่าลูกรู้จัก
สิ่งของนั้นหรือไม่
งานวิจัยหลายๆงานแสดงให้เห็นว่ายิ่งพ่อแม่พูดคุยกับลูกมากเท่าไหร่
คลังคำศัพท์ของลูกก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
การอ่านหนังสือด้วยกัน ให้
ลูกเป็นคนถือหนังสือเวลาที่คุณอ่านหนังสือด้วยกันกับลูก
ชี้ดูรูปในหนังสือด้วยกัน บอกให้ลูกลองชี้รูปภาพในหนังสือ เช่นรูปหมา เด็ก
บ้าน เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถหาหนังสือที่สอนเกี่ยวกับ ขึ้น ลง ใหญ่
เล็ก สี และตัวเลขมาให้ลูกอ่าน เด็กส่วนใหญ่ในวัยนี้จะเริ่มร้องเพลงเป็น
ดังนั้นหนังสืออีกประเภทที่คุณควรนำมาอ่านด้วยกันกับลูกควรเป็นหนังสือเพลง
เช่น Wheels on the Bus เป็นต้น หากคุณทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ลูกจะเป็นคนอ่านและเล่าเรื่องในหนังสือให้คุณฟัง
2) ทักษะการคิดวิเคราะห์
เด็กวัยเตาะแตะนั้นเปรียบเสมือนนักวิทยาศาสตร์
พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นและช่างสงสัย
อยากรู้ว่าสิ่งของต่างๆทำงานและใช้ได้อย่างไรบ้าง เช่น
ลูกอาจจะโยนลูกบอลลงพื้นเพราะอยากรู้ว่าลูกบอลจะเด้งหรือไม่
หรือโยนตุ๊กตาเพราะอยากรู้ว่าถ้าโยนแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
นอกจากนี้เด็กวัยนี้ยังเริ่มเรียนรู้วิธีการใช้สิ่งของและเครื่องมือ เช่น
ใช้ไม้เขี่ยเอาของเล่นที่เอื้อมไม่ถึง
ความจำที่พัฒนาขึ้นยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้
ด้วย เช่น การเลียนแบบสิ่งที่เห็นคนอื่นทำ อย่างไรก็ดี
ลูกอาจจะไม่ทำสิ่งที่คุณสอนในทันที เรและคุณไม่ต้องกังวลใจ
ให้ใจเย็นๆเพราะต่อมาลูกจะทำสิ่งนั้นได้แน่ๆ
เพราะความทรงจำที่เริ่มพัฒนาและดีขึ้นนั่นเอง
ให้ลูกเป็นผู้นำ เด็ก
เล็กสามารถเรียนรู้แนวคิดต่างๆได้ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
หากลูกเป็นเด็กที่ไม่อยู่นิ่ง
หรือแอคทีฟ เมื่อคุณพาลูกไปเล่นที่สนามเด็กเล่น ลูกจะรู้จัก ช้า เร็ว ขึ้น
ลง บน และ ล่าง หากลูกเป็นเด็กที่ชอบใช้มือ
ลูกก็จะเรียนแนวคิดเดียวกันนี้ผ่านการต่อบล็อก
การทำซ้ำ เด็ก
นี้ชอบทำกิจกรรมซ้ำแล้วซ้ำอีก
การกระทำเช่นนี้เป็นการสร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงของสมองเพื่อให้
เด็กมีความชำนาญในทักษะใหม่ คุณควรจะหาของเล่นที่ช่วยให้ลูกได้ค้นหาคำตอบ
และมีความท้ายทาย เช่น บล็อก และ พัสเซิ่ล
3) การควบคุมตนเอง
เด็กวัยเตาะแตะเป็นวัยที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก
และไม่เกรงกลัวที่จะแสดงความรู้สึกให้คุณรู้ “ไม่” หรือ “ไม่เอา”
กลายเป็นคำศัพท์โปรดที่ลูกชอบใช้
และเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการแสดงความเป็นตัวของตัวเอง ในขณะเดียวกัน
เด็กเล็กวัยนี้ยังหุนหันและโมโหง่ายเพราะพวกเขาอยากทำอะไรหลายๆอย่างแต่ยัง
ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง
การจัดกิจวัติและตารางที่แน่นอนจะช่วยได้เพราะเด็กจะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย
รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และรู้สึกว่าพวกเขาคือผู้ที่ควบคุมสถานการณ์
คุณสามารถช่วยลูกฝึกการควบคุมอารมณ์ได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้
สอนให้ลูกรู้จักขอบเขต การ
ตั้งขอบเขตที่แน่นอนและมีความสม่ำเสมอจะช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัยเพราะขอบเขต
จะช่วยให้ลูกรู้ว่าเราคาดหวังอะไรและจะเกิดอะไรขึ้นหากลูกทำตัวนอกขอบแขตที่
กำหนดไว้ เช่นการเก็บดินสอสีหรือสีเทียนทันทีที่ลูกขีดเขียนผนังบ้าน
ลูกจะเรียนรู้ว่าลูกควรระบายสีในกระดาษหรือสมุดระบายสีไม่ใช่บนผนัง
บอกให้ลูกรู้จักกับความรู้สึกของตนเอง การ
ที่ลูกรู้ว่าเราเข้าใจความรู้สึกของเขาจะช่วยให้ลูกสงบลงเวลาที่ลูกโกรธ
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเรายอมตามใจลูกทุกครั้งที่ลูกร้องขอ
การให้ตัวเลือกเป็นเทคนิคที่ดีอย่างหนึ่ง เช่น
“แม่รู้ว่าลูกโกรธที่เราต้องเลิกเล่นในสนามเด็กเล่นและกลับบ้าน
แต่ลูกไม่ควรตีแม่นะคะ ถ้าอยากตีก็ตีหมอนใบนี้แทนก็แล้วกันค่ะ”
นอกจากนี้การให้ลูกได้เลือกของที่อยากกิน
หรือเสื้อผ้าที่อยากใส่ก็ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่อย่างไรก็ดี
ทุกอย่างต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
4) ความมั่นใจในตนเอง
เด็กวัยสองขวบอยากที่จะเป็นตัวของตัวเองเป็นที่สุด
แต่พวกเขาก็ยังต้องการพ่อแม่หรือคนที่เขารักอยู่
เพราะบุคคลเหล่าคือความอบอุ่นและความปลอดภัย
การที่ลูกรู้ว่าคุณอยู่เคียงข้างลูกเสมอจะช่วยให้ลูกค้นหาและเรียนรู้ได้
ด้วยความสบายใจ การทำทุกอย่างด้วยตนเองทั้งหมดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็ก
ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจและประสบความสำเร็จในการเรียน
คุณสามารถสร้างความมั่นใจให้ลูกได้โดยเทคนิคง่ายๆดังต่อไปนี้
ปล่อยให้ลูกแก้ปัญหาด้วยตนเอง คุณ
ควรจะเป็นโค๊ชให้ลูก สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือเมื่อลูกต้องการ
แต่อย่าแก้ปัญหาให้ลูก เช่นเวลาลูกต่อจิ๊กซอว์ หากลูกต่อไม่ถูกต้อง
คุณควรแนะนำให้ลูกลองใส่ช่องอื่น และไม่ควรจะเป็นคนต่อจิ๊กซอว์ช่วยลูก
การทำเช่นนี้จะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นใจเวลาที่ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ
จัดหากิจกรรมที่ท้าทายให้ลูกได้ทำ จับ
ตามองว่าลูกทำอะไรได้บ้าง
และให้หากิจกรรมใหม่ที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นมาให้ลูกได้ทำ เช่น
หากลูกต่อจิ๊กซอว์ 8 ชิ้นได้ คุณก็หาแบบใหม่ที่มีจำนวน 12
ชิ้นมาให้ลูกได้ลองต่อดู และหากลูกต่อบล็อกเป็นตึกได้
คุณก็อาจจะบอกลูกให้ลองต่อบล็อกเป็นรูปบ้านให้ตุ๊กตาตัวโปรด
วิธีนี้ยังช่วยให้ลูกรู้จักการเล่นบทบาทสมมติอีกด้วย
ที่มา : zerotothree.org